ช่วงนี้มีคดีสำคัญ ๆ หลายคดี ที่มักพูดถึง “เส้นเงิน” จนทำให้ประชาชนหลายคนสงสัยตั้งคำถามว่า “เส้นเงิน” คืออะไร ถ้าใครถูกพูดถึงว่ามี “เส้นเงิน” แล้วจะมีความผิดเลยรึเปล่า

“เส้นเงิน” คืออะไร

“เส้นที่แสดงความเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของการทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างบุคคลตั้งแต่หนึ่งคนขึ้นไป” โดยเส้นความสัมพันธ์ดังกล่าว มักจะปรากฏอยู่ในแผนผังที่จัดทำขึ้นเพื่อใช้แสดงผลการวิเคราะห์ความเชื่อมโยงในการทำธุรกรรมของบุคคลหรือกลุ่มบุคคล

เส้นที่เชื่อมกันมันมาจากไหน ?

เราลองนึกภาพว่า ประวัติการทำธุรกรรมของบุคคลนั้น เราจะต้องได้จากธนาคารเท่านั้น และธนาคารก็จะต้องส่งมาให้เป็น statement เป็นแผ่นกระดาษ ถ้ามีมาก ก็ยาวเหยียดหลายแผ่น ถ้าขอห้วงระยะเวลานาน จำนวนแผ่นก็มากตามไปด้วย แล้วถ้ามี statement มากกว่าบุคคล 2 คนขึ้นไป ก็ไม่ต้องพูดถึง แล้วใน statement ก็จะระบุรายละเอียดของเลขที่บัญชี จำนวนเงินเข้า เงินออก และรายละเอียดอื่น ๆ อีกเล็กน้อย

เราไม่สามารถเอาแผ่นกระดาษเหล่านั้นมาวิเคราะห์หาความเชื่อมโยงด้วยการพลิกกระดาษเป็นร้อยเป็นพันแผ่นไปมาได้ จึงต้องมีเครื่องมือมาช่วย ซึ่งเครื่องมือที่นำมาใช้ช่วยจัดการและช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก หนึ่งในนั้นคือโปรแกรม “i2 Analyst’s Notebook” ซึ่งมีค่า license ต่อปี สูงถึงเกือบสามแสนบาทต่อเครื่อง และแน่นอนคนที่จะนำมันไปใช้ก็ต้องมีความชำนาญเหมือนผู้ใช้โปรแกรมอื่น ๆ ทั่วไป โปรแกรมดังกล่าวจะช่วยจัดการข้อมูลจำนวนมากนั้น ให้แสดงผลออกมาเป็นความเชื่อมโยงระหว่างเลขบัญชี โดยแสดงออกมาเป็นเส้นที่เชื่อมโยงกัน สามารถแสดงผลแยกเป็นรายเส้น รายครั้งก็ได้ หรือแสดงผลรวมจำนวนครั้งการโอนหากัน แสดงจำนวนเงินรวมที่โอนหากันก็ได้ เส้นก็มีหัวลูกศรแสดงทิศทางการโอน ดังนั้นเมื่อโปรแกรมดังกล่าวแสดงผลออกมาเป็นเส้น คนที่ดูผลจากโปรแกรมนี้จึงมักพูดถึงการทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างกันว่า “เส้นเงิน”.

Laptop, smartphone and money in male hands on a blue background, close up.

เส้นเงิน ลบได้มั้ย?

เส้นเงินสามารถลบได้ แน่นอน

โปรแกรมที่ใช้วิเคราะห์เป็นเพียงโปรแกรมช่วยจัดการข้อมูลจำนวนมากและแสดงผลออกมาในรูปแบบที่ต้องการ ผลที่แสดงออกมาจึงสามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ทั้งหมด เช่นเดียวกับโปรแกรมอื่น ๆ เช่น โปรแกรมพาวเวอร์พอยต์ เป็นต้น อาทิ สามารถใส่รูปหน้าคนเข้าไปได้ สามารถใส่สัญลักษณ์เพื่อให้ดูง่ายขึ้น หรือแม้กระทั่งแก้ไขจำนวนเงินที่แสดง หรือแม้แต่ลบเส้นความสัมพันธ์ระหว่างใครไปก็ได้เลย

อ้าว แล้วมันขึ้นอยู่กับใครล่ะทีนี้ มันก็ขึ้นอยู่กับคนทำไงครับ ถ้าคนทำมันลบเส้นทิ้งไป จะจับผิดก็ต้องไปคุ้ยเอาใน statement ล่ะครับ แล้วถ้า statement มีจำนวนมาก ใครจะคุ้ยล่ะครับ ใครจะไปหาเจอ ดังนั้น ขอบอกเลยนะครับว่า การวิเคราะห์ในแบบที่กล่าวมานั้น พนักงานอัยการ หรือศาล ไม่ทราบเรื่องแบบนี้ และทำไม่เป็น เขาจะเพียงแค่อ่านรายงานการสืบสวนและฟังคำเบิกความของพนักงานสืบสวนเท่านั้น ดังนั้น พนักงานสืบสวนสามารถปกปิดข้อเท็จจริงได้บานเลย

ถ้ามีเส้นเงินเชื่อมโยงถึงกันจะเป็นความผิดไหม ?

อันนี้เป็นคำถามสำคัญ ถ้าคุณอ่านคุณลักษณะของโปรแกรมแสดงผลนี้แล้ว มันไม่ได้มีอะไรพิเศษไปกว่าตัว statement แค่ทำให้วิเคราะห์ง่ายขึ้น และในความเป็นจริง ในทางการสืบสวน บุคคลที่สำคัญที่สุดคนหนึ่ง หาใช่คนใช้โปรแกรมนี้ไม่ แต่คือคนที่วิเคราะห์แผนผังต่างหาก และหากมีคนวิเคราะห์หลายคนก็จะยิ่งช่วยแตกมุมมองทางความคิดได้มากกว่าการนั่งวิเคราะห์คนเดียว

เพราะฉะนั้น หากแผนผังพบเส้นเงินระหว่างบุคคลใดกับบุคคลใด ก็เป็นเพียงการทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างกัน ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องตรวจสอบว่า ธุรกรรมแต่ละรายการดังกล่าวนั้น (แยกย่อยรายรายการเลยทีเดียว) เป็นธุรกรรมที่มีจำนวนเงินเท่าไหร่ และมีวัตถุประสงค์อย่างไร ถึงแม้จะเป็นเส้นที่รับฝ่ายเดียว แต่ก็อาจมีวัตถุประสงค์มิได้เพื่อรับผลประโยชน์ก็ได้ อาทิ เป็นการใช้หนี้ที่ผู้โอนเคยก่อขึ้นกับผู้รับโอนในอดีต เป็นต้น

ดังนั้น จะเห็นได้ว่า การพิจารณาแผนผังความเชื่อมโยงดังกล่าว จะต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ และเพียงแค่แผนผังมิอาจแสดงให้เห็นถึงเจตนา หรือเจตนาทุจริต ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการกระทำความผิดได้ ยิ่งถ้าเป็นการยืมเงินกัน คือ มียอดโอนยืม และยอดโอนเงินคืนกันครบถ้วน แล้วมันจะเป็นความผิดฐานฟอกเงินได้อย่างไร เรื่องแบบนี้ เพียงแค่คำว่า “เส้นเงิน” จึงมิสามารถนำไปหยิบยกเอาไปปลักปรำใครได้เลยว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด การพูดลอย ๆ ว่ามีเส้นเงิน การพูดลอยๆ ว่ามีวงเงินเท่าไหร่ โดยมิได้พูดเลยว่าวงเงินจำนวนนั้น คือวงเงินกี่ปี หรือ วงเงินนั้นเป็นวงเงินที่ทบกันกลับไปกลับมาหรือไม่ (ยืม 5 แสน คืน 5 แสน ยืมแบบนี้ 4 ครั้ง ก็พูดออกไปแล้วว่า 2 ล้าน ทั้ง ๆ ที่ ตัวเงินจริง ๆ แค่ 5 แสน) หรือวงเงินนั้นมาจากที่อื่นหรือเปล่า ใช่เงินจากการกระทำความผิดหรือไม่ สิ่งเหล่านี้หากพูดออกไป ย่อมส่งผลให้ผู้ถูกพูดถึงไม่ได้รับความเป็นธรรม

Closeup young asia lady use cellphone order online shopping product and pay bills with credit card in living room interior at house, Self quarantine activity, Fun activity for coronavirus prevention.

กล่าวโดยสรุปคือ การมีอยู่ของเส้นเงิน

จึงไม่ใช่พยานหลักฐานทั้งหมดที่จะพิสูจน์ความผิดของผู้ใด เพราะจริง ๆ แล้ว เส้นที่ว่านั้นมันถูกสร้างขึ้นจากผู้ที่ทำมันขึ้นมา และบางทีผู้ที่ทำอาจจะปกปิดเส้นเงินที่จริง ๆ แล้วมันมีอยู่จริง ที่เป็นเส้นทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์จริง ๆ แต่เลือกที่จะลบมันทิ้ง ปกปิดเอาไว้ ไม่พูดถึงมัน เพียงเพราะปกป้องพวกพ้องของตนเอง แล้วบิดเบือนไล่ล่าฆ่าผู้อื่น

นี่คือความจริงที่ไม่มีใครรู้ เกี่ยวกับคำว่า “เส้นเงิน” ที่อยากจะเผยแพร่ให้ทุกท่านได้ทราบ แม้แต่บุคลากรในกระบวนการยุติธรรมเอง

About The Author

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *