คลั่งยาบ้าเต็มเมือง!! ได้ยินไม่ผิด ตอนนี้ยาบ้าระบาดหนักมากจริงๆ

เพียงสัปดาห์ที่ผ่านมาแค่สัปดาห์เดียว จากรายงานข่าวมีการสกัดรถขนยาบ้าได้ถึง 13,000,000 เม็ด เริ่มมาจากการสกัดจับยาบ้าจากด่านตรวจเมาในพื้นที่ พระราม 2 ได้มาเหนาะๆ 1,000,000 เม็ดแบบไม่มีสายข่าวแต่เป็นการใช้สกิลในการตรวจสกัด

ข้ามวันไม่ถึง 24 ชั่วโมงก็มีการสกัดจับรถขนยาบ้าที่ซุกมาในรถขนผักหกล้อ งานนี้บอกเลยว่ายาบ้าที่สกัดจับได้แทบจะล้นโรงพักบางปะอิน เพราะมากมายกว่า 10 ล้านบาทเม็ดเลยทีเดียว

ข้ามเพียงวันเดียวก็สกัดจับได้อีก ที่หลังสวน จังหวัดชุมพร อีก 1,000,000 เม็ด ใช้รถเก๋งเป็นพาหนะตอนยาส่งเพื่อล่อเป้าตำรวจให้จับเฉพาะเป้าเล็ก ถ้าหลุดไปได้ก็ฟลุก ซึ่งวิธีการนี้มักดึงความสนใจของเจ้าหน้าที่ได้ไม่น้อย

เพราะการจับลายเล็กๆ ก็สร้างข่าวได้ในระดับหนึ่งและทำให้ชะล่าใจ จนเป้าหมายใหญ่อาจจะหลุดเงื้อมือไปได้ง่าย

ลองถามเล่นๆ ถ้าสกัดจับได้ 13,000,000 เม็ดภายในสัปดาห์เดียว ตอนนี้มียาบ้าทะลักเข้ามาในบ้านเราแล้วเท่าไหร่ เพราะในทางการข่าวบอกว่า สัดส่วนที่เข้ามาและถูกจับอาจจะเป็นแค่หนึ่งใน 10 ของของที่เข้ามา นั่นหมายความว่าจะมียาบ้าทะลักเข้ามาบ้านเรามากกว่า 100,000,000 เม็ดเลยทีเดียว

เมื่อจำนวนของเยอะ ราคาย่อมถูกเป็นธรรมดา เพราะหาของง่าย เป็นเรืองอุปสงค์ อุปทานง่ายๆ ที่ใครๆ ก็เข้าใจกัน

แล้วส่วนที่สกัดจับไม่ได้ ตอนนี้ไปอยู่ในมือใคร พักยาอยู่ส่วนไหน ของประเทศไทยและจุดมุ่งหมายอยู่ที่ไหน

ทุกวันนี้ข่าวการทำร้ายทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและชาวบ้านเกิดขึ้นแทบรายวัน ไม่มีวันไหนที่ตำรวจจาก 1,484 โรงพัก ไม่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกคนคลั่งยาทำร้ายร่างกายหรือจากการปะทะเพื่อสกัดจับยาบ้า

แล้วผู้ที่กำกับเรื่องนี้ ต้องป้องกัน ต้องดูแลชาวบ้าน มัวทำอะไรกันอยู่ ขนาดชาวโซเชียลทำคลิปออกมาเพื่อเตือนสติ บ้างก็ล้อเลียน บุคคลที่เกี่ยวข้อง ก็ยังไม่เห็นการดำเนินการอย่างเป็นระบบ มีเพียงแค่การออกข่าวแถลงการจับกุมรายเล็กรายน้อยเท่านั้น

นี่ยังไม่นับการขายน้ำกระท่อม / การใช้กัญชาอย่างพร่ำเพรื่อไป หรือนโยบายล่าสุด “ยาบ้า 5 เม็ด เป็นแค่ผู้เสพ”

การที่เห็นผู้เสพยาเป็น ผู้ป่วย คือสิ่งที่ดี แต่ก็ควรมีมาตราการที่ชัดเจนมากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นที่บำบัด หรือวิธีการบริหารจัดการ

การเข้าถึงยากล่อมประสาท หลอนจิตประสาท เป็นแนวทางที่ถูกต้องแล้วใช่มั้ย แทนที่จะสกัดในทุกช่องทางไม่ว่าจะเป็นหนึ่งเม็ด หนึ่งแก้ว หนึ่งใบ กลับกลายเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกชีวิต ทุกเพศทุกวัย ทุกกลุ่มอายุ เข้าถึงสิ่งของพวกนี้ได้ราวกับว่าเป็นสิ่งที่ต้องเผชิญอยู่ทุกวันเหมือนกินข้าว

ถ้าไม่คลั่งไล่ฆ่าคนหมู่มาก จนเป็นกระแส และสังคมสุดทน รับไม่ได้ คงไม่ลุกขึ้นมาทำอะไรซักอย่างสินะ???

วอนผู้อำนาจ และมีตำแหน่งในสูงๆ ทั้งในวงการตำรวจเอง มีอำนาจจนล้นมือ แต่ไม่สามารถจัดการอะไรได้สักอย่าง อย่ามัวแต่เห็นแก่ตำแหน่งหน้าที่ ลอยตัวเหนือปัญหา ช่วยลงมาดูแลประชาชนบ้าง อย่ามัวแต่สร้างวาทะกรรม เป็นสิงโต (ที่นอนวันละ 20 ชั่วโมง ออกหากินแค่ 4 ชั่วโมงต่อวัน) หรือเป็นนกอินทรี (จับเฉพาะคนไม่ทางสู้) ลงมาทำงานกันบ้างเถอะ จะเป็นพระคุณอย่างสูง

About The Author

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *