ในช่วงปี 2563–2565 ประเทศไทยเผชิญกับปัญหาการเข้ามาของกลุ่มทุนจีนสีเทา (จีนเทา) ที่ใช้ช่องโหว่ของระบบตรวจคนเข้าเมือง เพื่อขอวีซ่าในลักษณะที่ดูถูกกฎหมาย เช่น วีซ่านักเรียนหรือวีซ่ามูลนิธิ แต่แท้จริงแล้วไม่มีการเรียนการสอนหรือกิจกรรมของมูลนิธิเกิดขึ้นจริง

กลโกงการขอวีซ่า

กลุ่มจีนเทาเหล่านี้ใช้วิธีการไม่กี่วิธี นั่นก็คือ ขอวีซ่านักเรียนหรือวีซ่ามูลนิธิ, วิธีการปลอมแปลงเอกสาร และจำเป็นต้องมีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองร่วมขบวนการ

การขอวีซ่านักเรียนหรือวีซ่ามูลนิธิ: อ้างว่าจะมาเรียนหรือทำงานอาสาสมัครในมูลนิธิ แต่ไม่มีการดำเนินกิจกรรมจริง โดยแรกเริ่มเดิมทีก็เข้ามาแบบวีซ่านักท่องเที่ยว ที่ขอแบบ Visa On Arrival ซึ่งอยู่ในประเทศไทยได้เพียง 15 วัน และไม่สามารถเปลี่ยนวีซ่า หรือขอต่อวีซ่าได้ หรือเข้ามาแบบขอวีซ่านักท่องเที่ยว หรือ TR ที่อยู่ในประเทศไทยได้ 60 วัน แล้วเข้ามาขอเปลี่ยนวีซ่าเป็นวีซ่านักเรียน หรือวีซ่าทำงานอาสาสมัครในมูลนิธิ เพื่อให้อยู่ในประเทศไทยได้ยาวนานขึ้นถึง 1 ปี โดยสนนราคาค่างวดต่อหัวที่เหล่าจีนเทาจ่ายให้กลุ่มเอเย่นที่รับทำนั้น ถึงหัวละ 100,000 – 200,000 บาท

การปลอมแปลงเอกสาร: มีการปลอมลายเซ็นของเจ้าหน้าที่รัฐ เช่น รองผู้ว่าราชการจังหวัด และปลอมตราประทับของหน่วยงานการศึกษา เพื่อ ออกหนังสือรับรองจากสถานศึกษาหรือมูลนิธิอันเป็นเท็จ เพื่อใช้ในการยื่นขอวีซ่า โดยมีทั้งมีโรงเรียนจริง มูลนิธิจริง แต่รับจ้างออกหนังสือรับรองให้ โดยที่ไม่มีการเรียนการสอนจริง ไม่มีการทำกิจกรรมของอาสาสมัครใด ๆ เพราะเป็นโรงเรียนเล็ก ๆ หรือมูลนิธิที่ตั้งขึ้นมาบังหน้า เพื่อรับงานพวกนี้โดยเฉพาะ ไล่ไปจนถึงไม่มีแม้กระทั่งโรงเรียน หรือมูลนิธิใด ๆ ทั้งสิ้น เรียกได้ว่าหลอกกันเห็น ๆ เอกสารก็ปลอมกันซึ่ง ๆ หน้านั่นเอง

            มีตำรวจตรวจคนเข้าเมืองร่วมขบวนการ: พบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จำนวนมากที่มีส่วนร่วมในการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มจีนเทา โดยเป็นทั้งรับเอกสารมาจากเอเย่นที่รู้เรื่องทั้งหมดว่าทุกอย่างเป็นเรื่องเท็จ มาทำการเปลี่ยนวีซ่า หรือต่อวีซ่าให้กับเหล่าจีนเทาเหล่านี้ แล้วตำรวจ ตม. ก็รับเงินรับทองกันไป หรือพัฒนาไปจนมีตำรวจ ตม. นี่แหล่ะที่เป็นเอเย่นเสียเอง ตั้งโรงเรียนเอง ตั้งมูลนิธิเองก็มี รับงาน รับเงินกันตรง ๆ ไม่ต้องผ่านเอเย่นกันอีกต่อไป โดยเริ่มตั้งแต่สมัยผู้บัญชาการ สตม. คนดังที่ปัจจุบันเกษียณไปแล้ว เปิดไฟเขียวให้ ตม. ในภาคอีสานและภาคเหนือ เป็นหน่วยดำเนินการ เป็นที่รู้กันไปทั่วว่า ตม.จังหวัดนั้น จังหวัดนี้รับต่อวีซ่าแบบนี้ ไล่เรียงกันไปตั้งแต่ นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี ลำพูน หรือเชียงใหม่ เป็นต้น ซึ่งเมื่อไล่เรียงสถิติกันจริง ๆ จะพบว่า ตม.จังหวัดเหล่านี้มีสถิติในการเปลี่ยนและต่อวีซ่าให้พวกจีนเทาสูงถึงจังหวัดละหลายพันคน บางครั้งโรงเรียนเดียวก็มียอดนักเรียนจีนถึง 2,000 คน และเป็นหน้าที่ของตำรวจ ตม. ที่ต้องไปทำการสุ่มตรวจ แต่แน่นอนเมื่อรับเงินเขามาแล้วจะไปสุ่มตรวจทำไม แต่เมื่อเรื่องมันแดง การตรวจสอบก็พบว่าที่ลงเรียนกันหลายพันคนนั้น แม้แต่โรงเรียนยังไม่มี

ในอดีตเคยมีการกวาดล้างขบวนการนี้โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ดำเนินการสืบสวนและขยายผลจากกรณีการเข้าจับกุมผับจินหลิง ในพื้นที่ สน.ยานนาวา ที่จับกุมนักท่องเที่ยวชาวจีน ได้กว่าร้อยคน และเหล่านั้นล้วนใช้วีซ่านักเรียนหรือมูลนิธิอยู่ในประเทศไทยแทบทั้งสิ้น จนพบว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจำนวน 107 นาย มีส่วนเกี่ยวข้องกับการออกวีซ่าให้กับกลุ่มจีนเทาอย่างผิดกฎหมาย. ในจำนวนนี้ มีนายพลตำรวจ 3 นาย รวมอยู่ด้วย ได้แก่ พล.ต.ท.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์  พล.ต.ต.ณัฐวัฒน์ การดี และ พล.ต.ต.เดชา กัลยาวุฒิพงศ์ สมัยที่คนเหล่านี้เป็นผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมืองในภาคอีสาน

การดำเนินคดีมีรายละเอียดดังนี้:

            •           ข้อหาตาม ป.อาญา มาตรา 157: เจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

            •           ข้อหาตาม ป.อาญา มาตรา 149: เจ้าหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์โดยมิชอบ

สำนวนคดีมีมากกว่า 40 ลัง รวมเอกสารกว่า 130,000 แผ่น และมีการสอบปากคำพยานกว่า 446 ปาก

ผลกระทบและการดำเนินการต่อไป

การเปิดโปงขบวนการนี้ทำให้เห็นถึงช่องโหว่ในระบบการตรวจคนเข้าเมืองของไทย และความจำเป็นในการปฏิรูประบบดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้เคยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการตรวจสอบและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต การดำเนินคดีนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการปราบปรามขบวนการที่เอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนจีนสีเทา และเป็นการส่งสัญญาณถึงความมุ่งมั่นของเจ้าหน้าที่ในการรักษาความมั่นคงของประเทศ แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป เหมือนกับว่าเรื่องพวกนี้จะวนกลับมาอีกครั้ง

จากผู้เรื่องจริง ใน ตำรวจ ตม.

About The Author

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *