จากเหตุการณ์ช็อคประเทศ ของ บริษัท ดิ ไอคอน ที่ว่า น่าจะเป็นการฉ้อโกงประชาชน เป็นแชร์ลูกโซ่ จนมีผู้เสียหายมากมายเต็มไปหมด ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ถ้าย้อนกลับไป ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ magic skin หรือ การตลาดแบบขายตรง อื่นๆ ที่หลอกลวงแบบนี้ทำไมถึง ทำการตลาดได้ประสบความสำเร็จ เราปฏิเสธไม่ได้ว่า มันไม่ใช่เพราะตัวสินค้า มันเป็นเพราะตัวบุคคลล้วนๆ หรือ การทำให้เชื่อว่า บุคคลนั้นเก่งจริงทำให้ประสบความสำเร็จ เลยอยากทำตาม หรือ เราอาจจะเรียกว่า การทำการตลาดแบบบูชาบุคคล Personality Cult Marketing
Personaility Cult คืออะไร?
Personality Cult คือ การยอมรับที่ตัวบุคคล เกิดขึ้นเมื่อปัจเจกบุคคลใช้สื่อมวลชน โฆษณาชวนเชื่อ หรือวิธีการอื่นเพื่อสร้างภาพลักษณ์อุดมคติ วีรกรรม ต่างๆ
ในสังคมไทยเป็นสังคมที่บูชาตัวบุคคล เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ผ่านจากสังคม วัฒนธรรมต่างๆ ถ้าเราจะเห็นได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะผ่านหมอดู ร่างทรง เทพเจ้าต่างๆ คิดว่า คนนั้น เทพองค์นั้นอยู่สูงส่งกว่า จำเป็นต้องเคารพบูชา ต้องน่าเลื่อมใส และสามารถนำประโยชน์ ความสำเร็จมาสู่ผู้เคารพได้ เราจะเห็นได้ว่า ประเทศไทยเประเทศที่นับถือทีตัวบุคคล และไปเสาะแสวงหาสิ่งที่บุคคลนั้นทำว่าทำอะไร และคิดว่าถ้าทำตาม ไม่ว่าจะทำตามสิ่งที่บอก หรือคัดลอกวิธีการของคนนั้นมา จะประสบความสำเร็จ แต่อาจจะหลงลืมไปว่า
“สิ่งที่ทำอาจจะไม่เหมาะกับเราก็ได้ COPY & PASTE STRATEGY NEVER BE WORKED”
ในทางการตลาดก็หยิบฉวยเอาวิธีการ ประโยชน์จากการบูชาคน มาทำแผนเพื่อธุรกิจเช่นกัน
Personality Cult ใช้อย่างไรในทางการตลาด?
เมื่อคนไทยหลงกับความสำเร็จ ของบุคคล โดยไม่สนวิธีการ คิดว่า ถ้าเราทำตามแบบคนที่สำเร็จ เราก็สำเร็จตาม หรือเห็นคนที่ภาพลักษณ์ดี แล้วคิดว่าผลิตภัณฑ์ที่ขายต้องดี ไม่งั้นคนนั้นคงไม่โดดลงมาลงทุน หรือโดดลงมาการันตีสินค้า โดยหลงลืมไปว่า สินค้าที่เกิดใหม่บนโลก มีขึ้นมาทุกวัน และสินค้าแต่ละตัวก็มีจุดขายเป็นของตัวเอง มีความแตกต่างกัน มิเช่นนั้นสินค้าอื่นๆ จะขายได้อย่างไร แต่กลับไปหลงเชื่อว่า ถ้าคนนี้ทำ คนนี้เป็นพรีเซ้นเตอร์ของมันต้องดีๆ แน่ๆ ต้องได้ผลลัพท์ เหมือนที่ พรีเซนเตอร์บอกแน่ๆ หรือเพราะคนนี้เป็นเจ้าของถ้าเราทำตามจะต้องประสบความสำเร็จเหมือนกันแน่ๆ
การทำให้คนหลงเชื่อในตัวบุคคล มากกว่าตัวสินค้า ก็นับเป็นอีกกลยุทธ์ ที่หลากหลายแบรนด์ในประเทศไทยนำมาใช้ แต่ที่จะใช้อย่างเป็นประจำนั่นคือ ธุรกิจขายตรงต่าง ที่มักจะชูประเด็นเรื่องความประสบความสำเร็จของคน มาก่อน ของที่ขาย เพราะในรูปแบบลักษณะของธุรกิจ เน้นการบอกต่อของสมาชิก และได้ Passive Income ตามมา แต่แค่มี Passive Income จากการซื้อสินค้ามาใช้เองอย่างเดียวคงไม่ทำให้คนที่เป็นสมาชิกมีแรงบันดาลใจไปชักจูงให้คนอื่นมาใช้สินค้าตามได้ ถ้าสินค้าไม่ได้เป็นสินค้าที่ทดแทนกันไม่ได้ เลยจำเป็นต้องมีเรื่องความสำเร็จ ของล่อตาล่อใจ จากบุคคลที่สำเร็จมาเป็นตัวการันตี เช่น “เห็นมั้ยทำงานขายไม่กี่ปี ก็สามารถร่ำเรวยได้ มีรถหรู บ้านหรู กินดี อยู่สบาย” มีการพูดโน้มน้าวต่างๆ ว่าทำแล้วจะได้ผลอะไรตอบแทน โดยที่แทบไม่พูดถึงตัวเนื้อสินค้าเลยด้วยซ้ำ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็หลงไปกับ คนที่ทางแบรนด์ออกมาสร้างให้ปเป็นบูชาไปเสียแล้ว
การหลงบูชาในตัวบุคคลไม่ได้เป็นเรื่องที่ผิด แต่อย่างใด เพียงแต่สิ่งที่จำเป็นต้องสร้างไปพร้อมกันๆ นั่นคือ ความน่าเชื่อถือของตัวสินค้า เพื่อให้สินค้าสามารถขายได้ตัวของมันเอง เพราะเมื่อใดแล้วที่สินค้าไม่สามารถขายได้ด้วยของมันเองแล้ว สินค้าเหล่านั้นก็จะไม่สามารถทำตลาดได้อีกต่อไป