ส่งตุลาการกับหลักสูตรคอนเนคชั่นที่ล่วงล้ำทำลายหลักจริยธรรมและคุณธรรมศาล หมกเม็ดทั้งที่รู้ว่าเป็นเพื่อนคู่ความแต่ไม่ยอมถอนตัว กลับมาพิจารณาคดีช่วยเพื่อนตนเองโดยยกคำขอคุ้มครองชั่วคราวตั้งแต่คราวแรก หากเป็นศาลยุติธรรมปกติเพียงแค่เป็นเพื่อนผู้เสียหายยังต้องยอมถอนตัว เพื่อรักษาไว้ซึ่งความเป็นกลางในกระบวนการยุติธรรม แต่นี่เป็นเพื่อน ผู้ถูกฟ้องคดีหรือเพื่อนผู้ต้องหากลับยังนั่งหมกเม็ดทำคดีต่อ แถมยังมี คลิปเสียงอ้างผู้บริหารระดับสูงแทรกแซงคดี

บิ๊กโจ๊ก ยื่น ป.ป.ช. กล่าวหาดำเนินคดีอาญานายอนุวัฒน์ ธาราแสวง ประธานแผนกคดีละเมิดและความรับผิดอย่างอื่น ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือ ละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ กรณี ตนเองเป็นตุลาการชั้นผู้ใหญ่ไม่ปฏิบัติตามจริยธรรมตุลาการศาลปกครองและประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง เลือกปฏิบัติ ไม่วางตัวเป็นกลางเป็นเพื่อนคู่ความ แต่กลับมาพิจารณาคดีเสียเอง ก่อให้เกิดความเสียหายแก่คู่คดี ทำลายหลักประกัน ความเชื่อมั่น ศรัทธาในกระบวนการตุลาการศาลปกครองสูงสุด

                วันนี้ 11 กันยายน 2568 พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล ได้เดินทางไปที่ ป.ป.ช. สนามบินน้ำ ยื่นหนังสือถึงประธานกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวหาดำเนินคดีอาญากับประธานแผนกคดีละเมิดและความรับผิดอย่างอื่น ( นายอนุวัฒน์ ธาราแสวง) ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

การยื่นกล่าวหาดำเนินคดีอาญาครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา บิ๊กโจ๊กได้เดินทางไปยื่นหนังสือ ถึงประธานศาลปกครองสูงสุด ให้แนะนำ นายอนุวัฒน์ ธาราแสวง ประธานแผนกคดีละเมิดและความรับผิดอย่างอื่น ศาลปกครองสูงสุด ให้ปฏิบัติตามหลักจริยธรรมตุลาการศาลปกครองพร้อมทั้งขอให้ดำเนินการทางวินัยกับนายอนุวัฒน์ฯ กรณีรู้ตัวเป็นเพื่อนบิ๊กต่าย ผู้ถูกฟ้องคดี แต่กลับมาพิจารณาพิพากษาคดีเสียเอง โดยพิจารณาเป็นคุณกับบิ๊กต่าย อันเป็นการกระทำที่เอนเอียง ไม่เป็นกลาง ไม่ซื้อสัตย์สุจริต เป็นความบกพร่องอันมีสภาพร้ายแรง อันทำให้การพิจารณาพิพากษาคดีเสียความยุติธรรม เกิดความเคลือบแคลงสงสัย ทั้งข้าราชการ และประชาชนทั้งประเทศ

          นายอนุวัฒน์ฯ ทราบอยู่แก่ใจอยู่แล้วว่า ตนเองเป็นเพื่อนเรียนหลักสูตร
ศาลรัฐธรรมนูญ รุ่นเดียวกับบิ๊กต่าย เมื่อปีที่ผ่านมานี่เอง แทนที่จะถอนตัวออกจากการพิจารณาพิพากษาคดี แต่กลับใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ เจตนาช่วยเหลือบิ๊กต่าย  โดยพิจารณาพิพากษาคดียกฟ้องกรณีคุ้มครองชั่วคราวช่วยเหลือบิ๊กต่าย ทำให้ บิ๊กโจ๊ก ผู้ฟ้องได้รับความเสียหาย สูญเสียความยุติธรรม เสียโอกาสในการเจริญเติบโตก้าวหน้าในชีวิตรับราชการ เสื่อมเสียชื่อเสียงต่ออนาคตหน้าที่ราชการ

           หลักของศาล แม้นเป็นเพื่อนผู้เสียหายฝ่ายถูกต้องยังต้องถอนตัว
แต่นายอนุวัฒน์ฯ เป็นเพื่อนผู้ถูกฟ้องกลับไม่ถอนตัว แถมมานั่งพิจารณาคดีเสียเอง เจตนาอยู่ในใจ แต่ย่อมแสดงออกด้วยการกระทำ นี่คือเจตนาที่ไม่สุจริตตั้งแต่แรก

             บิ๊กโจ๊ก กล่าวอีกว่า การดำเนินการครั้งนี้ ต้องการให้กระบวนการยุติธรรมของศาลปกครองสูงสุด เป็นที่เชื่อถือ ศรัทธา ยึดมั่น ถือมั่น ไว้วางใจ เป็นหลักประกันให้กับข้าราชการทุกหมู่เหล่าที่ถูกกลั่นแกล้งจากผู้บังคับบัญชาของตนเอง ที่เขาเหล่านั้นไม่ว่าจะยศมาก ยศน้อย แต่สามารถจับต้องความยุติธรรมจากสถานที่แห่งนี้ได้อย่างแท้จริง และจะต้องไม่ใช้คอนเนคชั่นที่ตนเองได้มาจากเรียนหลักสูตรต่างๆ มากระทำเพื่อพวกพ้อง

About The Author

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *