WORK LIFE BALANCE หรือ WORK ไร้ บาลานซ์
1 min readคำสวยหรูที่พนักงานทุกคนคาดหวัง คือ work life balance และอยากให้มันเกิดขึ้น แต่ทำไมมันไม่เคยเกิดขึ้นได้เลย เอ๊ะหรือมันเกิดขึ้นได้นะ เพียงแค่เราปล่อยวาง หรือ ใช้คำที่หลายคนชอบบอกว่า #ช่างแม่ง
ความจริงแล้ว Work Life Balance คือ อะไรกันนะ
ถ้าจะบอกให้เข้าใจง่ายๆ มันก็คือ การแบ่งการใช้ชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวออกเป็น 2 ส่วนเท่าๆ กัน ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่คำแปล ประเด็นมันอยู่ที่ทำได้จริงหรือป่าวต่างหาก
ผมเองผู้เคยเป็นนักโทษของคำว่า WORK ไร้ บาลานซ์ มาแล้ว จะมาขอแชร์ วิธีการจัดการด้วยมุมมองแบบใหม่ที่จะทำให้คุณมี ความบาลานซ์ในชีวิตกันครับ
- สำรวจความสามารถของเราเอง อันนี้ง่ายที่สุดครับ ว่าเราถนัดกับงานอะไร งานอะไรที่เราทำได้เร็ว ทำได้คล่อง อันไหนทำได้ไม่คล่อง แน่นอนครับ ว่าถ้าเราดันไปรับปากทำอะไรที่เราไม่ถนัด รับรองได้ว่า งานนั้นกินเวลาชีวิตเราแน่นอน วิบัติทันทีครับ
- ประเมินเวลาที่จะใช้กับงานในแต่ละงานที่เราจะทำ (หรือได้รับมอบหมาย) ก่อนที่จะประเมินเวลา เราต้องรู้จักกับคำนี้ก่อนครับ “TIMELINE” หรือ หรือ กำหนดเวลาส่งงาน ว่ามันมีกำหนดเวลาส่งงานเมื่อไร ถ้าเรารู้ว่า กำหนดระยะเวลาส่งงานเป็นเมื่อไร และเรารู้ว่า เราจะเหลือเวลากับมันกี่วัน กี่ชั่วโมง กี่นาที เราจะตอบได้ ว่าเราจะทำมันทันไม๊ ไม่ใช่สักแต่รับปากว่า ทันครับนาย ได้เลยคับ เป็น MR.Yes Man กันไป แล้วงานก็ทับตัวตาย แล้วสุดท้ายก็มาบ่นกับเพื่อนๆ ว่า งานเยอะฉิบหาย
- จงจำเอาไว้ว่า คำว่า “งานเยอะ” ของเราไม่เท่ากันครับ เรามักจะเอางานของเราไปเทียบกับงานชาวบ้านเสมอ ทำไม ฉันกลับบ้านดึก เพื่อนๆ กลับบ้านกันหมดแล้ว ทำไมนายสั่งงานฉันคนเดียว ทำไมนายชอบเอางานยากๆ มาให้กูทำ เพราะคำว่างานเยอะเราไม่เท่ากันไงครับ ถ้าอยากให้มันเท่ากัน จงประเมินออกมาเป็นหน่วยที่นับได้ครับเช่น ฉัน (กู) ทำ Report แบบนี้ 2 ชั่วโมงต่อวัน และต้องทำแบบนี้ 20 reports ต่อเดือน คิดเป็น 40 ชั่วโมง ต่อ เดือน (1 เดือนทำงานเท่ากับ 8ชั่วโมง x 20 วัน = 160 ชั่วโมง) เพราะฉะนั้นแค่กู นั่งทำรีพอตอย่างเดียว หายไปแล้ว 1/4 ของเดือน นะมึงแล้วไหนจะประชุมที่ไม่ได้งานอีกกี่ประชุมต่อวันอีก หมดไปกี่วันแล้ว จะเอาเวลาที่ไหนทำงานกันเล่า…
- จงฝึกเป็นคนขี้เกียจ ครับคุณอ่่านไม่ผิดครับ จงเป็นคนขี้เกียจครับ เพราะคนขี้เกียจ มักจะหาทางลัดเพื่อทำงานให้เสร็จได้เร็วเสมอ ถ้าคุณถนัดที่จะทำแบบเดิมๆ โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมงเท่าเดิม โดยไม่หาทางใหม่ คุณจะเสียเวลาแบบนี้ไปทุกวัน แต่ถ้าคุณลองหาทางใหม่ๆ บ้าง อาจจะเสียเวลาในตอนแรก คุณอาจจะค้นพบวิธีใหม่ๆ แล้วทำให้คุณลดเวลาลง อย่างน้อย 5-10 นาทีในทุกๆ ครั้งก็เป็นได้นะครับ
- เมื่อประเมินจำนวนงาน และจำนวนเวลาแล้ว ไม่มีทางเสร็จทัน สิ่งที่คุณต้องทำคือ ต้องแจ้งครับ ว่า ต้องการเพิ่มคนช่วย คุณต้องร้องขอทันที ครับ ว่าต้องการความช่วยเหลือ ไม่ว่าส่วนใดก็ส่วนหนึ่ง อย่านั่งทับปัญหานั้นไว้ การนั่งทับปัญหาไว้ ไม่มีใครรู้ปัญหากับคุณด้วย การร้องขอขึ้นอยู่กับว่าคุณจะร้องขอแบบใดครับ.. ร้องขอคนช่วยเพื่อให้งานเสร็จทัน ร้องขอเพื่อให้ขยาย timeline ออกไป ร้องขอเพื่อให้เลื่อนส่งงานอื่นออกไป ร้องขอเพื่อให้เพื่อนเอางานอื่นไปช่วยทำ และอื่นๆ อีกมากมาย
- ลองดูสิว่า วันๆ นึงเราเสียเวลาไปกับอะไรบ้าง ใช่ครับ อีกอย่างที่เรามักจะลืมมองไปก็คือ เราเสียเวลาไปกับอะไรก็ไม่รู้ ที่ไม่ได้งาน แล้วมันทำให้เราทำงานไม่ทันครับ ไม่ว่าจะเป็นประชุมที่ไม่มีการเตรียมหัวข้อประชุมก่อนการประชุม ไม่สรุป action ว่าใครต้องทำอะไรหลังจากการประชุมเป็นต้น ทำให้เสียเวลาโดยใช่เหตุ และอื่นๆ อีกมากมายนะครับ
เห็นมั้ยครับการจัดการ Work Life Balance ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ลองดูนะครับแค่คุณคิดใหม่ลองใหม่แค่นั้นครับ